จุดเริ่มต้นของทริปรถไฟนี้ จริงๆ ผมคิดไว้นานแล้วว่าถ้าโมโม่และมามิโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ จะลองพาไปนั่งเก็บประสบการณ์ สัมผัสการเที่ยวแบบลำบากๆ ดูบ้าง (ตามประสาเด็กในเมืองอะนะ) แต่ยังหาจังหวะเวลาเหมาะๆ ไม่ได้ จนเมื่อสองเดือนก่อนได้คุยกับเพื่อนที่เป็นคุณแม่ในกลุ่มโรงเรียนรุ่งอรุณ ซึ่งเป็นจังหวะพอดีที่เค้ากำลังจะจัดทริปพาเด็กๆ นั่งรถไฟไปหัวหิน เลยเอ่ยปากขอแจมด้วย
โปรแกรมเที่ยวของทริปนี้จะเหมิอนกับโปรแกรมรถไฟนำเที่ยว ‘กรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์’ ที่การรถไฟเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยวทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ทุกประการ แต่ต่างกันที่ตู้โดยสารจะเป็นแบบพิเศษที่เรียกว่า ‘Otop Train’ จำนวน 2 ตู้พ่วงติดท้ายขบวน 911 ไป (แวะไหนแวะด้วย จอดไหนจอดด้วย)
ซึ่งขบวน Otop Train นี้โดยปกติจะไม่ได้เปิดให้บริการเป็นขบวนสาธารณะครับ หากต้องการนั่งจะต้องติดต่อเช่าเหมาขบวนกับการรถไฟเป็นครั้งๆ รายละเอียดคร่าวๆ ที่พอรู้มาก็คือจะต้องเช่าเหมาทั้ง 2 ตู้ 112 ที่นั่ง และต้องติดต่อล่วงหน้าพอสมควร ใครสนใจลองติดต่อการรถไฟดูนะครับ … เจ้าหน้าที่พูดน้อย แต่ใจดี -> คุณเพื่อนแม่บุ๋มไม่ได้กล่าวไว้ ;p
Otop Train เป็นตู้โดยสารเก่าที่ถูกนำมาปรับโฉมใหม่ให้มีความสวยงาม หรูหรา เบาะหุ้มหนังนุ่มๆ สะอาดนั่งสบาย ปรับเอนและหมุน 360 องศาหันหน้าเข้าหากันได้ (เด็กๆ ชอบมาก) ระยะห่างระหว่างที่นั่งสามารถยืดขาสบายๆ ไม่อึดอัด โดยทั้งสองตู้มีห้องคาราโอเกะส่วนตัวให้เค้าไประบายความบันเทิงกันได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวรบกวนคนอื่น ในส่วนของห้องน้ำนี่ก็ต้องยกนิ้วให้ ข้างในดูใหม่และสะอาดสะอ้าน แบ่งเป็นห้องชาย-หญิงเป็นสัดส่วนดี อ้อมี Free WiFi ติดไว้ให้ดีใจแต่ลองแล้วหาสัญญาณไม่เจอแฮะ -_-
ก่อนหน้าที่จะตกล่องปล่องชิ้นกับทริปนี้ ผมยังไม่ลืมประเด็นที่ว่าอยากให้เด็กๆ ได้ลองสัมผัสกับความลำบากดูบ้าง คือใจจริงอยากให้นั่งรถไฟตู้ธรรมดา ไม่มีแอร์ … ซึ่งคุณเพื่อนก็คิดตรงกัน แต่หลังจากที่ได้บอกวัตถุประสงค์กับเจ้าหน้าที่การรถไฟแล้ว เขาถึงกับเอ่ยปากว่า ‘พาลูกไปลำบากอย่างอื่นเถอะครับ’ !!! … เจอประโยคนี้ทำเอาไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว 555
ก่อนถึงวันเดินทาง เด็กๆ ตื่นเต้นกับการเตรียมตัว เตรียมชุด และของเล่นไปเล่นน้ำ เพื่อความสะดวกสบายไม่ต้องหิ้วหนักจึงจับทุกอย่างโยนลงกระเป๋าล้อลากใบเดียว ที่สำคัญมากและต้องห้ามลืมเด็ดขาดคือหมวก แว่นกันแดด ทิชชู่เปียก ซันบล็อก (แดดแรงมว๊วากก กลับมาหน้าลอกเลย) และผ้าห่มหรือเสื้อกันหนาว .. ห๊ะ!! ใช่ครับ คอนทราสต์กันแบบไม่น่าเชื่อ บนรถไฟแอร์หนาวมาก โดยเฉพาะช่วงเย็นตอนแดดหุบแล้ว
เอาหล่ะ มาดูโปรแกรมของทริปคราวนี้กัน…
5.00 น. ปลุกลิง เรียกปุ๊บตื่นปั๊บ ตื่นเต้นดีใจไม่มีงอแงง่วงนอนเหมือนตอนไปโรงเรียน
5.50 น. ถึงสถานีหัวลำโพง (จอดรถได้ที่ลานจอดเอกชนอยู่ข้างสถานี เหมาค่าจอดทั้งวัน 120 บาท) พาเด็กๆ เดินดูมุมต่างๆ ก่อนขึ้นขบวนรถ
6.30 น. ล้อหมุนออกจากสถานีกรุงเทพฯ รถไฟไทยออกตรงเวลานะครับ แต่ถึงกี่โมงอีกเรื่องนึง…
7.40 น. ถึงสถานีนครปฐม มีเวลา 40 นาทีให้แวะช้อปและทานอาหารเช้าทึ่ตลาด (ร้านข้าวเหนียวหมูหน้าเซเว่นเด็ดมาก) หรือใครคิดว่ามีพลังและเร็วพอสามารถแวะไปสักการะองค์พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ที่องค์พระปฐมเจดีย์ได้ ระยะทางประมาณ 600 เมตร ส่วนผู้ใดที่ยังอยากงีบต่อ ก็รออยู่บนรถก็ได้ ไม่ดับเครื่อง
8.20 น. ล้อหมุน เดินทางต่อ ระหว่างนี้จะมีเจ้าหน้าที่รถไฟเดินมาถามเรื่องการซื้อของฝากพวกขนมต่างๆ ที่ขึ้นชื่อของเมืองเพชรบุรี (เช่นขนมหม้อแกง ทองหยิบ ฝอยทอง ขนมชั้น ข้าวตัง บ้าบิ่น ฯลฯ) โดยจะเอามาให้ในตอนขากลับ ไม่ต้องตระเวนไปซื้อเองให้เสียเวลา
10.40 น. ถึงสถานีสวนสนประดิพัทธ์ เดินข้ามถนนอึดใจเดียวก็ถึงสวรรค์บนหาดทรายของเด็กๆ … มีเวลาให้เล่นน้ำถึงประมาณบ่ายสาม … เด็กๆ ไม่รอช้า ลุย!!
เล่นเสร็จมีจุดบริการห้องอาบน้ำ เดินไม่ไกล ค่าบริการคนละ 10 บาท ส่วนอาหารกลางวันก็ไม่ต้องห่วง สามารถใช้บริการร้านอาหารใกล้ๆ บริเวณชายหาด, ร้านค้าสวัสดิการของกองทัพ หรืออยากนั่งสบายหน่อยก็ร้านอาหารทิวสน
15.30 น. พร้อมที่สถานี เตรียมเดินทางกลับกทม. ขากลับแนะนำให้ตุนเสบียงให้พร้อม ทั้งอาหารและน้ำดื่ม เพราะรถไฟจะวิ่งรวดเกือบห้าชั่วโมงโดยไม่จอดแวะให้ลงไปซื้ออะไรทาน แต่บอกเลยเด็กๆ นี่เล่นกันมันส์จนลืมหิว!
20.10 น. ถึงกทม.เด็กๆ ร่ำลาเพื่อนๆ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านจ้า
จบทริปตัวดำทั้งคุณพ่อแม่และเด็กๆ ประทับใจในความสนุกและสะดวกสบาย (แอบลองใจ ถามว่าคราวหน้ามาอีกมั้ย ทุกคนตอบเสียงเดียวกันว่า ‘มา’ ^^) เรียกได้ว่าลบภาพจำการเดินทางด้วยรถไฟอันแสนลำบากในใจของใครหลายๆ คนได้หมดสิ้น
นอกจากความประทับใจเด็กๆ ยังได้มิตรภาพ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ รู้จักการแบ่งปันขนม ฝึกการอดทนรอคอย การช่วยเหลือตัวเอง ความรับผิดชอบ และที่สำคัญคือการตรงต่อเวลา เพราะถ้าช้ารถไฟไม่รอนะแจ๊ะ
สุดท้ายต้องขอบคุณคุณเพื่อนแม่บุ๋ม สายชล แห่งโรงเรียนรุ่งอรุณ ที่เป็นธุระในการจัดทริปครั้งนี้ ^^