เริ่มเช้าวันที่สาม หลังจากเมื่อคืนพักเอาแรงแล้วเราก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า พาเด็กๆ นั่ง Metro ไปเดินชมแลนมาร์คที่น่าสนใจของมหานครนิวยอร์คกันต่อ จุดแรกที่แวะคือสถานีรถไฟในตำนาน Grand Central Terminalที่หลายคนต้องคุ้นและเคยเห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลายๆ เรื่อง (ที่พอจำได้ก็มี Superman, The Avengers) เดินผ่านประตูเข้าไปเหมือนหลงยุคกับโครงสร้างที่ดูโอ่โถงอลังการประดับประดาด้วยประติมากรรมสุดคลาสสิคให้ความรู้สึกวินเทจมากๆ
แต่ภายใต้ความคลาสสิคนั้นเองก็มีร้าน Apple Grand Central ซ่อนอยู่ทางปีกตะวันออก (East Balcony) ดูเป็นความขัดแย้งที่กลมกล่อมลงตัวมาก ร้านนี้ตกแต่งแบบเรียบๆ บรรยากาศสบายๆ จากไฟสว่างนวลตาบวกกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกอาคารเข้ามา ให้ความรู้สึกต่างจาก Apple Store อื่นๆ ที่มักแต่งด้วยกระจกใสบานใหญ่ ไฟเยอะๆ ใครมีโอกาสมาที่นี่ก็อย่าลืมแวะเดินขึ้นไปดูนะครับ
จาก Grand Central Terminal เราใช้ Google Map นำทางเดินต่อไปยัง The New York Public Libraryหอสมุดสาธารณะของนิวยอร์คที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา และอันดับ 3 ของโลก ระหว่างทางที่เดินไปหอสมุด สังเกตเห็นภรรยาเดินๆ หยุดๆ ก้มถ่ายรองเท้าตัวเองอยู่เป็นระยะ พอไปดูว่าถ่ายอะไรก็ถึงบ้างอ้อ มันคือแผ่นทองเหลืองแกะสลักคำคมหรือประโยคสำคัญๆ ในหนังสือที่อยู่ในหอสมุดฝังไว้ตามทางเท้า ซึ่งถ้าใครเดินตามแผ่นทองเหลืองที่เรียกว่า “Library Way” (ถนนเส้น East 41st ระหว่าง Fifth Avenue กับ Park Avenue) ไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงหอสมุดแน่นอนไม่มีหลง ผมว่านิวยอร์กเป็นเมืองที่มีความเก๋ไก๋ในการนำเสนอ city life ที่ผสมกับ art & culture ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ มิน่าคนใครมานิวยอร์กแล้วต้องหลงสเน่ห์รวมถึงทุกคนในครอบครัวผมด้วย
.. แธ่น แธ๊นนนนน…. (เล่นใหญ่ไปไหน) ที่นี่ก็คือ National Geographic Encounter: Ocean Odyssey ที่เที่ยวแห่งใหม่ใจกลางนิวยอร์กที่ผมว่าน่าสนใจมากๆเพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วง Fall 2017 นี่เอง ออกแบบและควบคุมการจัดแสดงโดยทีม Special Effects มือรางวัลจาก Hugo และ Game of Thrones … ฟังแค่นี้ก็อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าข้างในมีอะไรดี วันนี้ผมจะพาไปดูครับ
National Geographic Encounter เป็นนิทรรศการแบบอินเทอแรคทีฟแห่งใหม่และแห่งแรกที่จะพาพวกเราดำดิ่งไปสัมผัสกับชีวิตท้องทะเลลึกใต้มหาสมุทรแปซิฟิกระดับ 60,000 ฟุตแบบไม่เปียก! ย้ำว่าไม่เปียกเลยครับ เพราะที่นี่เค้าใช้เทคโนโลยีภาพและเสียงที่ทำให้เราได้เห็น ได้ยิน เสียงของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำแบบสมจริง และด้วยจุดแข็งด้านการถ่ายภาพระดับโปรแฟสชั่นแนลของทีม NG ซึ่งทำงานกับผู้เชี่ยวชาญทางทะเลเพื่อเก็บภาพและเสียงทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับช่วงนาทีพิเศษของสัตว์ใต้ทะเลที่แทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้ มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสแบบฟินๆ
ถัดจากห้องนี้เราจะได้ลงลึกไปสู่ก้นบึ้งของมหาสมุทรเพื่อดูว่าสัตว์ใต้ทะเลเค้าอยู่กันอย่างไร มีการจำลองสภาพใต้มหาสมุทรที่มืดสนิท ที่เจ๋งก็คือเราจะได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมจริงจากไมโครโฟนชนิดพิเศษที่ทีมงาน NG ได้เคยทำการบันทึกเอาไว้
Remembering 9/11…
ตอนแพลนมานิวยอร์ค สารภาพเลยครับว่าตอนนั้นสมอง blank โปรแกรมทั้งหมดถูกจัดการโดยคุณภรรยาผู้น่ารัก แต่มีขอไปว่าอยากไปที่นึง ช่วยใส่ในโปรแกรมให้หน่อยคือมิวเซียม National September 11 Memorial & Museum คือตอนที่ทราบข่าวเรื่องมีการจัดสร้างมิวเซียมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสอยากจะไปชมให้ได้ และวันสุดท้ายในนิวยอร์คเราก็ได้มายืนอยู่ที่ Ground Zero อีกครั้ง
สำหรับที่เที่ยวอื่นๆ ที่เราไปเช็คอินกันมาวันนี้คือตึก Empire State ที่ชมกันแต่ด้านล่าง เพราะงบหมดจาก One World Observatory (ฮา) เดินชม China Town แวะกินบะหมี่เกี๊ยว+เป็ดย่างที่มิชลินแนะนำ บอกเลยว่าน้ำตาไหล! ไม่ได้แพงนะครับแต่โคตรอร่อย!!!
และที่พลาดแล้วถือว่าไม่ได้มานิวยอร์คคือคุณป้าเทพีเสรีภาพ Statue of Liberty ที่วันนั้นดวงเฮงเจอนักท่องเที่ยวลงเยอะมาก ต้องรอคิวเกือบสองชั่วโมงรอซื้อตั๋วขึ้นเรือ แต่วิวที่ได้กลับมา คุ้มค่าสมกับการรอคอย